วันพุธที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2555

คู่กรรม 2

บทประพันธ์ : ทมยันตี เรื่องย่อ อังศุมาลินให้สัญญาต่อหน้าศพโกโบริว่า เธอจะมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อลูกและดูแลลูกให้ดีที่สุดเพื่อโกโบริ ผู้ชายที่เธอรักสุดหัวใจหลายปีต่อมาหลังจากโกโบริเสียชีวิต กองทัพสหรัฐอเมริกาก็ถล่มเมืองนางาซากิและฮิโรชิมาทำให้ญี่ปุ่นยอมแพ้สงคราม อังศุมาลินเห็นภัยสงครามที่จะมา ถึงกลินท์หรือโยอิจิลูกชายของเธอ เพราะลูกชายมีสายเลือดญี่ปุ่นอยู่จึงปิดตัวจากสังคมภายนอกมีเพียงวนัสที่อังศุมาลินยังติดต่อไปมาหาสู่ ช่วง เวลานั้นเองหลวงชลาสินธุราชพ่อของอังศุมาลินถูกจับฐานเป็นอาชญากรสงคราม ทางรัฐบาลก็ได้ช่วยเหลือให้หลวงชลาสินธุราชพ้นจากความผิด และเป็นอิสระในที่สุด เมื่อออกจากคุกก็ได้ไปหาภรรยาเก่า คือ อร ก็ได้รู้ว่ายาย ของอังศุมาลินเสียชีวิต แล้วทำให้หลวงชลาสินธุราชบวชให้ และไม่ยอมศึก ในที่สุดก็มรณะภาพภายใต้ร่มกาสาวพักตร์ ทำให้อังศุมาลินเลี้ยงดูอรและกลินท์เพียงลำพัง อังศุมาลินเลี้ยงดู และปลูกฝังความเป็นโกโบริให้กับกลินท์ ซึ่งกลินท์เกลียดไม่ยอมรับว่าเขามีเชื้อสายความเป็นญี่ปุ่น เมื่อกลินท์เรียนจบก็ เป็นอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยธรรมศาสตจร์และยังเป็นแกนนำให้นักศึกษาประท้วงและต่อต้านสินค้าญี่ปุ่น มีเพียงอาจารย์ชิตาภาคอยเตือน กลินท์เสมอ ทำให้กลินท์เริ่มไม่ไว้ใจในตัวชิตาภาจึงพยายามหลีกเลี่ยงไม่พบชิตาภาเหล่านักศึกษาไม่มีใครรู้ว่ากลินท์มีเชื้อสายเป็นญี่ปุ่นนอก จาก ศราวณี ลูกพี่ลูกน้องของเขาเอง จากการปลูกฝังทำให้ศราวณีเกลียด และนำเรื่องชาติกำเนิดของกลินท์มาเปิดเผยจึงทำให้ทุกคนต่างต่อ ต้านและทำให้กลินท์ลาออกจากการเป็นอาจารย์มีแต่ชิตาภาที่เข้าใจ กลินท์จึงขอให้ชิตาภาบอกให้ศราวณีเลิกการประท้วงแต่เขาไม่เชื่อ ศราวณีเป็นแกนนำการประท้วงต่อไป จากการประท้วงจึงทำให้เหล่านักศึกษาถูกจับกุมและกลินท์ก็เข้าไปช่วยเหลือศราวณี จึงถูกทำร้ายจากกลุ่มนักศึกษา ศราวณีก็เข้ามาช่วยและ บอกความจริงว่ากลินท์คือพี่ชายของตน กลินท์จึงรู้ความจริงทั้งหมดและได้พาศราวณีมาที่บ้านของตน พอศราวณีได้มาพบกับอังศุมาลี จึงทำให้รู้ว่าอังศุมาลีเป็นคนดี และมั่นคงต่อโกโบริไม่เหมือนกับที่แม่ของตนบอกว่าอังศุมาลีคบชู้เลย ศราวณีรู้สึกผิดในสิ่งที่ตน กระทำจึงขอโทษที่ เคยทำไม่ดีกับกลินท์ ทุกคนให้อภัยความใกล้ชิดจึงทำให้กลินท์และศราวณีผูกพันกันมากขึ้น ชิตาภาตัดสินใจพาศราวณีกลับบ้าน แต่พอกลับเข้าบ้านก็มีปากเสียงกับกบ ทำให้ศราวณีหนีออกจากบ้าน และไปร่วมมือกับนักศึกษาประท้วง รัฐบาลให้ปล่อยคนที่โดนจับจากการประท้วงครั้งนั้นก็ก่อให้เกิดการจราจลทำให้นักศึกษาและประชาชนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ส่วนศราวณีได้รับบาดเจ็บด้านชิตาภา อังศุมาลิน และกลินท์ทราบข่าวทางโทรทัศน์จึงตามไปช่วยเหลือ เมื่อทุกคนมาถึงต่างตกใจเมื่อพบว่าร่าง กายและหน้าตาของศราวณีเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำจึงรีบพากลับบ้าน แต่ศราวณีกลับกลายป็นคนสติฟั่นเฟือน และพูดพร่ำเพ้อว่าตนเองเป็นต้น เหตุที่พาทุกคนไปตาย ชิตาภาโทรศัพท์ไปบอกกบให้มารับศราวณีแต่กบกับโวยวายต่างๆนานา โดยไม่รู้เลยว่าตน เองก็เป็นต้นเหตุที่ทำให้ลูก สาวต้องเป็นเช่นนี้ เหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นในวันที่ 14 ตุลาคม 2516 วันมหาวิปโยคทำให้คณะรัฐบาลกราบถวายบังคมทูลลาออกหลังจากมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บนับพันคนกลินท์มาพบชิตาภา และทราบว่าเธอต้อง ไปใช้ชีวิตที่เมืองนอกพร้อมทั้งพาศราวณีไปรักษา กลินท์ก็ได้รู้ว่าตนเองรักกับชิตาภาไม่ได้เพราะเธอมีคู่หมั้นอยู่แล้วคือ ร๊อบ โรเบิร์ต เบิร์กเลย์ ชิตาภาบอกความในใจของตนเองที่มีต่อกลินท์ แต่ต้องขอโทษที่ตนเองด่วนมีคู่หมั้นเสียก่อน และเธอก็บอกกลินท์ว่าสักวันหนึ่งจะกลับมาหา กลินท์ก็บอกกับชิตาภาว่าจะรอเมื่อชิตาภามีทุกข์และต้องการเพื่อนแท้พักหลังอังศุมาลินมีอาการป่วยหนัก และก็บ่นถึงชิตาภาว่าเมื่อ ไหร่จะกลับมาซักที กลินท์ก็เป็นคนดูแลแม่มาโดยตลอด อังศุมาลินขอไห้ลูกชายเล่นซาซิเม็งให้ฟัง กลินท์จึงเล่นให้ฟังเป็นประจำโดยที่กลินท์ไม่รู้เลยว่าโกโบริมารับอังศุมาลินไปยังทางช้างเผือกตามที่เคยสัญญากันไว้ในอดีต ซึ่งครั้งล่าสุดในปี 2547 ทางช่อง 3 ได้ทำเป็นละครออกอากาศทุกวัน จันทร์ อังคาร เวลา 20:20 น
บทโทรทัศน์ พิง ลำพระเพลิง กำกับการแสดง นพดล มงคลพันธ์ ดำเนินการผลิต บริษัท เรด ดราม่า จำกัด นำแสดงโดย วรเวช ดานุวงศ์ รับบทเป็น กลินท์ / โยอิจิ, มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล รับบทเป็น ศราวณี , ศรราม เทพพิทักษ์ รับบทเป็น โกโบริ , พรชิตา ณ สงขลา รับบทเป็น อังศุมาลิน , นันทกา วรวณิชชานันท์ รับบทเป็น ชิตาภา , กรุณพล เทียนสุวรรณ รับบทเป็น วนัส , จินตหรา สุขพัฒน์ รับบทเป็น แม่อร ,จารุณี สุขสวัสดิ์ รับบทเป็น คุณนาย, เขมสรณ์ หนูขาว รับบทเป็น กบ , ถั่วแระ เชิญยิ้ม รับบทเป็น ตาผล, ค่อม ชวนชื่น รับบทเป็น ตาบัว,น้องพี ม๊กจ๊ก รับบทเป็น โก๊ะ ที่มาจาก http://movie.sanook.com/21336/%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1-2

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น